วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Poème Après l’hiver

Après l’hiver

Victor Hugo
N’attendez pas de moi que je vais vous donner
Des raisons contre Dieu que je vois rayonner ;
La nuit meurt, l’hiver fuit ; maintenant la lumière,
Dans les champs, dans les bois, est partout la première.
Je suis par le printemps vaguement attendri.
Avril est un enfant, frêle, charmant, fleuri ;
Je sens devant l’enfance et devant le zéphyre
Je ne sais quel besoin de pleurer et de rire ;
Mai complète ma joie et s’ajoute à mes pleurs.
Jeanne, George, accourez, puisque voilà des fleurs.
Accourez, la forêt chante, l’azur se dore,
Vous n’avez pas le droit d’être absents de l’aurore.
Je suis un vieux songeur et j’ai besoin de vous,
Venez, je veux aimer, être juste, être doux,
Croire, remercier confusément les choses,
Vivre sans reprocher les épines aux roses,
Être enfin un bonhomme acceptant le bon Dieu.
Ô printemps ! bois sacrés ! ciel profondément bleu !
On sent un souffle d’air vivant qui vous pénètre,
Et l’ouverture au loin d’une blanche fenêtre ;
On mêle sa pensée au clair-obscur des eaux ;
On a le doux bonheur d’être avec les oiseaux
Et de voir, sous l’abri des branches printanières,
Ces messieurs faire avec ces dames des manières.
26 juin 1878
Victor Hugo

วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เนื้อเพลงThere you’ be



When I think back
(เว็น นาย ตริ๊งค แบ็ค)
On these times
(ออน ดีซ ไทม์)
And the dreams
(แอนด์ เดอะ ดรีม)
We left behind
(วี เล๊ฟท บีฮายน์)
I’ll be glad ’cause
(แอล อีส แกล๊ด ค๊อส)
I was blessed to get
(ไอ วอส เบล๊ส ทู เก็ท)
To have you in my life
(ทู แฮพ ยู อิน มาย ไล๊ฟ)
When I look back
(เว็น นาย ลุ๊ค แบ็ค)
On these days
(ออน ดีซ เดย์)
I’ll look and see your face
(แอล ลุ๊ค แกน ซี ยัวร์ เฟซ)
You were right there for me
(ยู เวีย ไร๊ท แดร์ ฟอร์ มี)
[Chorus:]
In my dreams
(อิน มาย ดรีม)
I’ll always see you soar
(แอล ออลเว ซี ยู ซอร์)
Above the sky
(อะโบ๊ฝ เดอะ สกาย)
In my heart
(อิน มาย ฮาร์ท)
There will always be a place
(แดร์ วิล ออลเว อีส อะ เพลส)
For you for all my life
(ฟอร์ ยู ฟอร์ ออล มาย ไล๊ฟ)
I’ll keep a part
(แอล คี๊พ อะ พาร์ท)
Of you with me
(ออฟ ยู วิธ มี)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
Well you showed me
(เวลล ยู โชว์ มี)
How it feels
(ฮาว อิท ฟีล)
To feel the sky
(ทู ฟีล เดอะ สกาย)
Within my reach
(วิธติน มาย รี๊ช)
And I always
(แอนด์ ดาย ออลเว)
Will remember all
(วิล รีเม๊มเบ่อร์ ออล)
The strength you
(เดอะ สเต๊ง ยู)
Gave to me
(กีฟ ทู มี)
Your love made me
(ยัวร์ เลิฟ เมด มี)
Make it through
(เม้ค กิด ตรู)
Oh, I owe so much to you
(โอ้ , ไอ โอว์ โซ มัช ทู ยู)
You were right there for me
(ยู เวีย ไร๊ท แดร์ ฟอร์ มี)
[adsense]
[Chorus:]
In my dreams
(อิน มาย ดรีม)
I’ll always see you soar
(แอล ออลเว ซี ยู ซอร์)
Above the sky
(อะโบ๊ฝ เดอะ สกาย)
In my heart
(อิน มาย ฮาร์ท)
There will always be a place
(แดร์ วิล ออลเว อีส อะ เพลส)
For you for all my life
(ฟอร์ ยู ฟอร์ ออล มาย ไล๊ฟ)
I’ll keep a part
(แอล คี๊พ อะ พาร์ท)
Of you with me
(ออฟ ยู วิธ มี)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
‘Cause I always saw in you
(ค๊อส ไอ ออลเว ซอว์ อิน ยู)
My light, my strength
(มาย ไล๊ท , มาย สเต๊ง)
And I want to thank you
(แอนด์ ดาย ว้อนท ทู แทร๊งค ยู)
Now for all the ways
(นาว ฟอร์ ออล เดอะ เวย์)
You were right there for me
(ยู เวีย ไร๊ท แดร์ ฟอร์ มี)
You were right there for me
(ยู เวีย ไร๊ท แดร์ ฟอร์ มี)
For always
(ฟอร์ ออลเว)
[Chorus:]
([ค๊อรัส : ])
In my dreams
(อิน มาย ดรีม)
I’ll always see you soar
(แอล ออลเว ซี ยู ซอร์)
Above the sky
(อะโบ๊ฝ เดอะ สกาย)
In my heart
(อิน มาย ฮาร์ท)
There will always be a place
(แดร์ วิล ออลเว อีส อะ เพลส)
For you for all my life
(ฟอร์ ยู ฟอร์ ออล มาย ไล๊ฟ)
I’ll keep a part
(แอล คี๊พ อะ พาร์ท)
Of you with me
(ออฟ ยู วิธ มี)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
And everywhere I am
(แอนด์ เอวี่แวร์ ไอ แอม)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)
There you’ll be
(แดร์ โยว อีส)

สรรพคุณขององุ่น

สรรพคุณขององุ่น

  1. ผลมีรสหวาน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอ ม้าม และไต ใช้เป็นบำรุงโลหิต (ผล)[1],[2],[3]
  2. ผลมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง (ผล)[2],[3] ให้ใช้ผลองุ่นแห้งและโสม อย่างละ 3 กรัม นำมาแช่ในเหล้าประมาณ 1 คืน แล้วนำมาทาบริเวณฝ่ามือและแผ่นหลัง (ผล)[1]
  3. ช่วยลดความดันโลหิตสูง (ผล)[2]
  4. ช่วยลดไขมันในเลือด ด้วยการใช้เมล็ดองุ่นนำมาบดให้เป็นผงแห้ง บรรจุแคปซูลกิน 1-2 เม็ด เช้าและเย็น (เมล็ด)[2]
  5. ผลมีสรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง (ผล)[2]
  6. ผลนำมาคั้นเอาน้ำรับประทาน จะช่วยแก้อาการหงุดหงิดได้ (ผล)[1]
  7. ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ แก้เหงื่อออกไม่รู้ตัว เหงื่อออกเนื่องจากหัวใจไม่ปกติ (ผล)[1],[2],[3]
  8. ผลมีสรรพคุณเป็นยาแก้เลือดน้อย โลหิตจาง (ผล)[1]
  9. เถาและใบมีรสชุ่มฝาด สุขุม มีสรรพคุณเป็นยาแก้ตาแดง (เถาและใบ)
  10. ช่วยแก้อาการไอ ไอเรื้อรัง (ผล)[1],[3]
  11. ใช้รักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด ด้วยการใช้รากองุ่นสด รากหญ้าคา รากไวเช่า รากบัวหลวง ใบสนแผง (สนหางสิงห์) และดอกแต้ฮวย อย่างละ 15 กรัม และเนื้อสัตว์นำมาต้มกับน้ำกิน (ราก)[3]
  12. ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำรับประทานแก้กระหายน้ำ หรือใช้ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำ แล้วใช้ภาชนะที่ปั้นด้วยดินเผา เคี่ยวผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย เก็บไว้กินทีละน้อย (ผล)[1],[3]
  13. น้ำมันที่ได้จากเมล็ดเมื่อนำมากินก่อนหรือพร้อมอาหาร จะสามารถลดกรดที่มีมากเกินไปในกระเพาะอาหารได้ (น้ำมันจากเมล็ด)[3]
  14. น้ำมันจากเมล็ดมีฤทธิ์เป็นยาระบาย (น้ำมันจากเมล็ด)[3]
  15. องุ่นแห้งมีสรรรพคุณช่วยหล่อลื่นลำไส้ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผลแห้ง)[3]
  16. ใบใช้เป็นยารักษาบิดในวัวควาย (ใบ)[3]
  17. ช่วยบำรุงครรภ์ ครรภ์รักษา (ผล)[1],[2],[3]
  18. ราก เถา และใบ มีรสชุ่ม ฝาด เป็นยาสุขุม ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด (ราก,เถา,ใบ)[1],[2],[3] ส่วนผลก็มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะเช่นกัน (ผล)[1],[2],[3]
  19. ผลมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะขัด เจ็บ มีเลือดออก ด้วยการใช้ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำ และน้ำต้มรากบัวหลวง น้ำต้มจากโกฐขี้เถ้า น้ำผึ้ง นำไปต้มกินครั้งละ 2 ถ้วยชา (ผล)[3]
  20. ผลมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคหนองใน (ผล)[2]ให้ใช้ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำ และน้ำต้มรากบัวหลวง น้ำต้มจากโกฐขี้เถ้า น้ำผึ้ง นำไปต้มกินครั้งละ 2 ถ้วยชา (ผล)[3]
  21. ผลองุ่นมีสรรพคุณช่วยบำรุงไต (ผล)[1],[2],[3]
  22. ช่วยขับลมชื้นในร่างกาย แก้บวมน้ำ (ราก,เถา,ใบ)[1],[2],[3] แก้ตัวบวมน้ำ (ผล)[2],[3]
  23. ช่วยขับน้ำดี (น้ำมันจากเมล็ด)[3]
  24. องุ่นที่ไม่แก่จัดใช้กินวันละประมาณ 1.4-2.7 กิโลกรัม เป็นยารักษาอาการตับและดีเสื่อมสมรรถภาพหรือทำงานไม่ดี (ผล)[3]
  25. ใบใช้เป็นยาห้ามเลือดในริดสีดวงทวาร และบาดแผลสด (ใบ)[3]
  26. ใบและเถามีฤทธิ์ยาสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น (แต่ไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค) (ใบและเถา)[3]
  27. ราก เถา และใบ ใช้ภายนอกเป็นยารักษาฝีหนองอักเสบ แผลบวมเป็นหนอง (ราก,เถา,ใบ)[1],[2],[3]
  28. รากสดใช้ตำพอกแก้อาการฟกช้ำได้ (ราก)[3]
  29. ช่วยบำรุงเส้นเอ็นและกระดูก (ผล)[1]
  30. ช่วยแก้อาการปวดหลัง ให้ใช้ผลองุ่นแห้งและโสม อย่างละ 3 กรัม นำมาแช่ในเหล้าประมาณ 1 คืน แล้วนำมาทาบริเวณฝ่ามือและแผ่นหลัง จะช่วยแก้อาการปวดหลังได้ (ผล)[1]
  31. รากและผลมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ (ราก,ผล)[2],[3] ใช้แก้อาการปวดตามข้อให้ใช้รากสดประมาณ 60-90 กรัม และขาหมูตามบริเวณเล็บ 1 ขา หรือปลาหลีอื้อประมาณ 1-2 ตัว ใส่น้ำพอสมควร ต้มหรือใส่น้ำและเหล้าอย่างละเท่ากัน แล้วนำไปตุ๋นกิน (ราก)[3] ใช้แก้อาการปวดข้อเนื่องจากลมชื้นเข้าข้อกระดูก ด้วยการใช้รากองุ่น 100 กรัม, คากิ 1 อัน นำมาตุ๋นกับเหล้าและน้ำอย่างละ 1 ส่วน แล้วนำมารับประทาน (ราก)[1]
  32. ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอก กระดูกร้าว กระดูกหัก ด้วยการใช้รากองุ่นสดนำมาตำแล้วพอก หรือจะนำมาตำแล้วนำมาคั่วกับเหล้าใช้พอกบริเวณที่เป็นก็ได้ (ราก)[1],[3]
  33. ผลมีสรรพคุณช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง (ผล)[2],[3]

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

20เรื่อง วาเลนไทน์

20  เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์

และแล้ววันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ก็ เวียนวนมาอีกครั้ง หันไปทางไหนก็มีแต่คนรักกันๆ แต่ถึงอย่างนั้นวันวาเลนไทน์ก็ควรจะเป็นวันดีๆ ที่มีแต่เรื่องดีๆ ใช่ไหมล่ะ จึงขอนำเสนอ 20 เรื่องที่เธอควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ทุกๆคน ทำวันวาเลนไทน์ของเราให้เป็นวันวาเลนไทน์ที่มีคุณค่า มากกว่าวันที่เสียเงินซื้อของขวัญ และแสดงออกว่ารักกันแบบที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของความรัก ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลย
1. วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine)ผู้รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เพราะในยุคนั้นมีกฏหมายห้ามไม่ให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียน แต่เซนต์วาเลนไทน์ยังแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและ รับโทษ โดยในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุม ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ แต่เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์ เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะ ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจและยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก นั่นเอง
2. คนที่ฟ้าส่งมาให้รักเรามากที่สุดคือ พ่อแม่ เป็นรักไม่มีวันหมดอายุ ไม่มีเงื่อนไข เพราะต่อให้เราอ้วน น่าเกลียด พิการ ทำตัวงี่เง่ายังไง พ่อแม่ก็ยังรักและพร้อมจะเสียสละเพื่อเราเสมอ ดังนั้นในวันวาเลนไทน์ จึงอยากใหคุณๆ ทำดีต่อคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ นะคะ
3. คนที่ไม่มีแฟนไม่ใช่คนอาภัพน่าสงสารในวันวาเลนไทน์ เพราะคนโสดก็มีความรักได้ และคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนที่ไม่มีความรักในหัวใจต่างหากล่ะ อีกอย่าง...คนที่มีแฟน แต่แฟนห่วยแตก ชีวิตเหมือนถูกขังให้ทรมานไปวันๆ น่าสงสารกว่าคนโสดเป็นไหนๆ
4. จากการสำรวจพบว่าในวัยเรียน เด็กคอซอง คนที่ให้ของขวัญบอกรักกันมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ ไม่ใช่ คู่รัก แต่เป็น เพื่อน ดังนั้นอย่าเครียดไปเลยที่แม้ว่าจะยังไม่มีแฟนมาควงแขนอวดใครในวันวาเลนไทน์ เพราะถึงยังไง เราก็ยังมีเพื่อนมากมายที่มอบความรักต่อกันได้อยู่นะ
5. กุหลาบราคาแพงไม่ได้แสดงว่าเค้ารักเรามากจริงๆ ดังนั้นอย่าไปเชื่อคำพูดของใครว่า รักเรามาก เพียงเพราะเค้าให้ดอกกุหลาบราคาแพงหูฉี่ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ใจล้วนๆ
6. ครูที่ปรึกษาหลายท่านร้องไห้ด้วยความทราบซึ้ง เมื่อลูกศิษย์ประจำห้องมอบดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ให้ท่านคนละดอก ลองวางแผนเซอร์ไพร้ส์ครูดูไหมล่ะ ให้เพื่อนๆ เอาดอกไม้ไปไหว้ครูพร้อมๆ กัน ได้เห็นครูน้ำตาร่วงเพราะซึ้งใจชัวร์ดิ
7. เมื่อเธอมองรอบตัว จะพบสิ่งมีชีวป็นผู้ให้ความรักแก่พวกเขา มีเมตตาแก่พวกเขาดู แล้วเธอจะเต็มอิ่มไปด้วยรักในหัวใจ
8. คนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุด ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นจะมีความรักที่น่าอิจฉาที่สุด ตรงกันข้าม คนที่ไม่ได้ของขวัญวาเลนไทน์ซักชิ้น อาจจะมีรักที่น่าอิจฉาที่สุดเลยก็เป็นได้
9. ของขวัญวาเลนไทน์ที่มีค่าที่สุด อาจลงทุนน้อยที่สุด เช่น การ์ดที่ตั้งใจทำกับมือ ดาวกระดาษที่พับมาเป็นเดือนๆ หรือของราคาถูกแต่ตั้งใจหาซื้อมาด้วยใจ เพราะฉะนั้น อย่าตีค่าความรักของใครด้วยราคาของขวัญที่เค้าให้ เราดูที่การกระทำดีกว่านะ ก็มีค่ายิ่งใหญ่สุดๆ แล้ว
10. เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก กลับเป็นเดือนที่มีวันน้อยที่สุดของปี บอกให้เรารู้ว่า ความรักจะสั้นหรือยาวไม่ได้อยู่ที่วันเวลาที่คบกันมา แต่อยู่ที่การทำทุกนาทีให้มีค่าร่วมกันนะจ๊ะ
11. วันวาเลนไทน์ไม่ใช่วันเสียตัวแห่งชาติ เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะกลายเป็นแฟชั่นแปลกๆ ไปแล้วว่าวาเลนไทน์โรงแรมม่านรูดจะต้องเต็ม! ไม่เวิร์คเลย เพราะที่สุดแล้ว คนที่จะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังก็คือเราคนเดียวเท่านั้น การมีอะไรกันไม่ได้บ่งบอกว่ารักกันเสมอไป ควรมีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
12. วันวาเลนไทน์ แม้จะตื่นเต้นยังไง ก็ยังต้องเรียนหนังสือ ไม่ใช่เอาแต่เหม่อมองรอคอยใครมาให้ดอกไม้ หรือร่าเริงโดดเรียนไปเที่ยวซะงั้น บางคนพอถึง วันวาเลนไทน์ สติแตก เอาแต่วางแผนว่าจะเซอร์ไพร้ส์แฟนยังไง ทำอะไรบ้าง สรุป วันนี้สอบตกเพราะไร้สติโดยสิ้นเชิงล่ะ
13. คนโสดก็มีวาเลนไทน์ที่อบอุ่นได้แค่เพียงรักตัวเอง ขอให้จำไว้เลยว่า แค่เพียงเราใช้วันวาเลนไทน์เป็นวันที่เราดูแลสุขภาพร่างกาย มอบความรัดให้ตัวเอง เราก็จะเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดได้อยู่แล้ว
14. อย่าเสียเงินไปซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตามาเดินถือ เพียงเพราะกลัวขายหน้าที่ยังไม่มีใครให้ของขวัญวาเลนไทน์ มันเป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ เพราะการเดินมือเปล่าในวันวาเลนไทน์ไม่ใช่เรื่องน่าอายซักกะหน่อย ถ้ารวยนักละก็ เอาเงินไปบริจาคให้เด็กยากจนดีกว่านะ
15. ถ้าอยากให้ของขวัญวาเลนไทน์ที่อยู่นานๆ ต้นไม้ในกระถางก็น่ารักดี ดีกว่าดอกไม้ราคาแพงหูฉี่ แต่สามวันเน่า ลองไปหาซื้อไม้ใบ ไม้ดอกสวยๆ เอามามอบให้กัน ราคาถูกกว่า แถมอยู่ได้นานกว่าด้วย อีกอย่างมันก็มีความหมายเป็นนัยๆ ว่า รักของเราจะมั่นคงยาวนาน เหมือนต้นไม้ที่เติบโตและไม่เหี่ยวเฉาง่ายๆ ถ้าได้รับการดูแลอย่างดีนะจ๊ะ
16. ผู้ชาย 55 เปอร์เซ็นต์มองว่าการให้ดอกไม้วาเลนไทน์เป็นเรื่องไร้สาระ บางคนถือว่าการให้ดอกไม้ผู้หญิงเป็นพวกเชยระเบิด ถ้าจะต้องทำเซอร์ไพร้ส์ให้เราวันวาเลนไทน์ เพราะความรักของเค้าอาจจะไม่ได้โฟกัสที่ตรงจุดนั้น
17. สิ่งที่จะทำให้ผู้ชายซึ้งใจและรักเรามากคือความเข้าใจ ไม่ใช่ของขวัญวาเลนไทน์ราคาแพง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องอดข้าว อดน้ำเพื่อซื้อของราคาแพงเกินตัวให้เค้า ถ้าเค้ารักเราจริง เค้าคงไม่สบายใจที่เห็นเราต้องทรมานตัวเองแบบนั้นหรอกนะ ความเข้าใจในตัวของเค้าและอยู่กับเค้าโดยสร้างความสุขให้กันได้ทุกวัน สำคัญสุดแล้ว
18. โลกของเราก็อยากได้ของขวัญวาเลนไทน์จากเธอ ลองหันมารักโลก ทำสิ่งดีๆ ให้โลกกันดูไหม เช่น ปลูกต้นไม้ สัญญากับตัวเองว่าจะลดการใช้ถุงพลาสติก ประหยัดไฟ ประหนัดน้ำ ฯลฯ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
19. ความสำคัญของการมีแฟนไม่ได้อยู่ที่มีคนเดินด้วยในวันวาเลนไทน์เท่านั้นฉะนั้นอย่าคิดโง่ๆ แค่ว่า อยากมีแฟนเพราะจะได้มีคนมาเดินข้างๆ ในวันวาเลนไทน์ จนต้องรีบควานหาเอาใครก็ได้มาเคียงคู่ เพียงเพราะว้อนท์อยากมีแฟนใจจะขาด แบบนั้นเธอเสี่ยงจะเจอรักคุดหรือรักสุดอะเฟดได้
20. เราสามารถมีวันวาเลนไทน์ได้ทุกวันแค่เพียงทำทุกวันให้เป็นวันแห่งความรัก ดูแลกันและกันทุกวัน ใส่ใจกันทุกวัน แล้วเธอก็จะพบว่า ไม่ว่าวันไหน โลกก็เป็นสีชมพูได้ แค่เพียงยังมีกันและกันอยู่เสมอ

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Oktoberfest

อ็อกโทเบอร์เฟสต์ (เยอรมันOktoberfest) เป็นเทศกาลประจำปี จัดขึ้นเป็นเวลา 16 วัน ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี จัดขึ้นปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ถือเป็น 1 ในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมนีและเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของโลก กับผู้เข้าร่วมเทศกาล 6 ล้านคนทุกปี และมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมของบาเยิร์น เทศกาลดั้งเดิมจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1810 โดยจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสระหว่างมกุฎราชกุมารลุดวิคกับเจ้าหญิงเทเรซ[1]
เทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ จัดขึ้นเป็นเวลา 16 วัน จนถึงในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคมในปี ค.ศ. 1994 มีการปรับเปลี่ยนเวลาหลังการรวมตัวของเยอรมนีตะวันตก-ออก ว่าถ้าวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม ตกที่วันที่ 1 หรือ 2 เทศกาลจะไปต่อถึงวันที่ 3 ตุลาคม (วันรวมประเทศ) ทำให้มีจำนวนวัน 17 วัน หากวันอาทิตย์เป็นวันที่ 2 และเป็น 18 วันหากวันอาทิตย์เป็นวันที่ 1 เทศกาลจัดขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า Theresienwiese หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Wiesn
นักท่องเที่ยวมักจะมาเที่ยวเทศกาลกินอาหารอย่างเช่น ไก่ (Hendl) หมูย่าง (Schweinsbraten) ข้อหมู (Haxn) ปลาปิ้งเสียบไม้ (Steckerlfisch) ไส้กรอก (Würstl) ร่วมกับ ขนมปังอบ (Brezn) มะเขือเทศหรือขนมปังก้อน (Knödeln) เส้นหมี่เนย (Kaasspotzn) แพนเค้กมะเขือเทศ (Reiberdatschi) Sauerkraut หรือ Rotkraut (กะหล่ำปลีแดง) ร่วมไปกับอาหารบาเยิร์น อย่าง Obatzda และ ไส้กรอกขาว (Weisswurst)
https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

La Toussaint วันฉลองคนตาย

วันที่ 1 Novembre ของทุกปีคือวันตูสแซงต์ La Toussaint วันฉลองคนตาย เป็นวันหยุดประจำชาติของฝรั่งเศส เราจะไปที่สุสานบรรพบุรุษพร้อมนำดอกไม้ไปเคารพผู้ตาย เพื่อแสดงถึงการระลึกถึงผู้ที่จากโลกไปแล้ว ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของวันนี้คือ Chrysanthèmes ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ของฤดูใบไม้ร่วง การระลึกถึงผู้มีพระคุณถึงแม้จะล่วงลับไปแล้วถือเป็นคุณธรรมประจำใจซึ่งไม่เพียงแต่ชาวเอเชีย แต่ชาวยุโรป อย่างชาวฝรั่งเศสก็ถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่สำคัญมากของครอบครัวเหมือนกัน

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

บรั่นดี

บรั่นดี (brandy ย่อมาจาก บรั่นดีไวน์ (brandywine) จากภาษาดัตช์ว่า brandewijn) บรั่นดีเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้จากการกลั่นของการหมักน้ำผลไม้ต่างๆ หรือไวน์ต่างๆ เช่นองุ่น แอปเปิ้ล แต่เมื่อผลิตจากผลไม้อื่นก็จะเรียกชื่อตามผลไม้นั้นๆ แต่ถ้าผลิตจากองุ่นก็จะเรียกบรั่นดี กรรมวิธีการผลิตโดยการหมักน้ำองุ่นแล้วนำมาต้มกลั่น แล้วนำไปบ่มต่อในถังโอ๊คซึ่งจะทำให้แอลกอฮอล์ที่มีอยู่เดิมลดลง และเมื่อยิ่งบ่มไว้นานแอลกอฮอล์ก็จะลดต่ำลงไปเรื่อยๆ บรั่นดีบางตัวเมื่อบ่มเกิน 50 ปีขึ้นไปจะมีแอลกอฮอล์ลดลงต่ำกว่า 40 ดีกรี และเมื่อบรรจุขวดก็จะมีแอลกอฮอล์เพียง 36 ดีกรี อันจะทำให้บรั่นดีนั้นมีความพิเศษเฉพาะ และมีความสุขุม นุ่มนวลจากการเก็บบ่มอันยาวนานนั่นเอง ชื่อบรั่นดีนั้นจะใช้เรียกสำหรับเหล้าที่ผลิตจากองุ่น บรั่นดีอาจจะผลิตจากผลไม้อื่นๆก็ได้ซึ่งก็จะใช้ชื่อผลไม้นั้นเรียกแตกต่างกันไป บรั่นดีหลายๆ ตัว ไม่ได้มีการหมักบ่มในถังโอ๊ค อันเนื่องจากลักษณะเฉพาะตัว เช่นสีใส รวมถึงบรั่นดีบางชนิดที่ไม่ได้ผลิตจากองุ่นที่ต้องการคงไว้ซึ่งรสชาติ กลิ่น อโรมาของตัวเอง ในบางประเทศ เช่นประเทศฝรั่งเศส ในแคว้นคอนญัก (Cognac) อมายัค (Armagnac) และ ควาลวาดอส (Calvados) ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในการผลิตบรั่นดีมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งบรั่นดีสามารถผลิตที่ไหนในโลกตราบใดเท่าที่ใช้องุ่นเป็นวัตถุดิบ เช่นที่ Douro valley ในประเทศโปรตุเกส Jerez de la Frontera ในประเทศสเปน